ภาคกลางของไทย มีพันธุ์ชันโรงท้องถิ่นที่น่าสนใจและเลี้ยงได้หลายชนิดเลยครับ แต่ละชนิดจะมีลักษณะเฉพาะตัวและให้ผลผลิตแตกต่างกันไป ลองดูตัวอย่างพันธุ์ยอดนิยมที่นิยมเลี้ยงในภาคกลางนะครับ
พันธุ์ชันโรงยอดนิยมในภาคกลาง:- ชันโรงตัวเล็ก (Trigona spp.)
- ลักษณะ: ขนาดเล็กที่สุดในบรรดาชันโรง ลำตัวสีดำ ทำรังในโพรงไม้เล็กๆ
- ข้อดี: เลี้ยงง่าย ขยายพันธุ์ได้เร็ว
- ข้อจำกัด: ให้ผลผลิตน้ำผึ้งน้อย
- ลักษณะ: ตัวใหญ่กว่าชันโรงตัวเล็กเล็กน้อย ท้องปล้องท้ายๆมีสีออกแดง ทำรังในโพรงไม้
- ข้อดี: ให้ผลผลิตน้ำผึ้งปานกลาง
- ข้อจำกัด: อ่อนแอต่อศัตรูธรรมชาติ เช่น มด
- ลักษณะ: ขนาดลำตัวปานกลาง ปากมีลักษณะแหว่ง ทำรังในโพรงไม้
- ข้อดี: ให้ผลผลิตน้ำผึ้งค่อนข้างมาก
- ข้อจำกัด: อาจดุบ้างเล็กน้อยเมื่อถูกรบกวน
- ลักษณะ: ตัวเล็กสีดำ ทำรังใต้ดิน
- ข้อดี: เลี้ยงง่าย ทนทาน
- ข้อจำกัด: ให้ผลผลิตน้ำผึ้งน้อย มักเลี้ยงเพื่ออนุรักษ์มากกว่า
ความสะดวกในการดูแล: บางชนิดเลี้ยงง่าย บางชนิดอาจต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
ปริมาณผลผลิตที่ต้องการ: หากต้องการผลผลิตน้ำผึ้งมาก ควรเลือกพันธุ์ที่ให้น้ำผึ้งมาก
ความเหมาะสมกับพื้นที่: บางชนิดอาจเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
ขอแนะนำเพิ่มเติม:
- ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลี้ยงชันโรงให้ดีก่อนตัดสินใจเลี้ยง
- เลือกซื้อชันโรงจากฟาร์มที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้พันธุ์ดี แข็งแรง
- ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือ เกษตรกรผู้เลี้ยงชันโรง เพื่อขอคำแนะนำ
.
.
นอกจากชื่อทางการแล้ว ชาวบ้านก็มีชื่อเรียกชันโรงพันธุ์ต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์และเรียกกันติดปากมาดูกันว่ามีชื่ออะไรบ้าง
ชื่อเรียกชันโรงแบบชาวบ้านในภาคกลาง:
- ชันโรงตัวเล็ก: ผึ้งจิ๋ว, แมลงอุง, ขี้ตั๋ว, อีโลม
- ชันโรงหางแดง: อุงหางแดง, แดงลำ, เลาหางแดง
- ชันโรงปากแหว่ง: อุงปากแหว่ง, อุงหางแหลม, อุงเมือง
- ชันโรงใต้ดิน: อุงดิน, อุงใต้ดิน
ชื่อเรียกอาจแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น
ชันโรงบางชนิดอาจมีชื่อเรียกซ้ำกันได้
นอกจากชื่อที่กล่าวมาแล้ว ชาวบ้านยังอาจตั้งชื่อชันโรงตามลักษณะของรัง เช่น
อุงรังใหญ่: หมายถึง ชันโรงที่ทำรังขนาดใหญ่ เช่น ชันโรงหางลาย
อุงรังไม้ไผ่: หมายถึง ชันโรงที่ชอบทำรังในต้นไผ่
ข้อดีของการเรียนรู้ชื่อเรียกแบบชาวบ้าน:
ช่วยให้เข้าใจวัฒนธรรมท้องถิ่น และการแบ่งแยกชนิดของชันโรงแบบง่ายๆ
สะดวกในการสื่อสารกับชาวบ้าน เวลาพูดคุยเรื่องชันโรง
.
.
ชื่อ ขนเงิน หลังลาย นี่แห่งชัดเจนเลยว่าเป็นภาษาชาวบ้านที่เรียกขานชันโรง บ่งบอกถึงความช่างสังเกตของคนสมัยก่อนที่ตั้งชื่อตามลักษณะของชันโรงได้อย่างตรงเป๊ะ!
มาดูกันว่า "ขนเงิน" กับ "หลังลาย" นี่คือชันโรงชนิดไหน
ขนเงิน (Silver Back) คือชื่อเรียกของชันโรง "ชันโรงหางขาว" (Tetragonula sapiens) ซึ่งเป็นชันโรงขนาดกลาง
ที่มาของชื่อ "ขนเงิน": สังเกตได้จากบริเวณด้านหลังของส่วนท้องปล้องที่ 2 จะมีขนละเอียดสีขาวเงิน มองดูคล้ายเคลือบด้วยผงเงิน จึงเป็นที่มาของชื่อ "ขนเงิน" นั่นเอง
ชันโรงขนเงินเป็นที่นิยมเลี้ยงในภาคกลาง เนื่องจาก ให้ผลผลิตน้ำผึ้งปานกลาง รสชาติดี และเลี้ยงง่าย
.
หลังลาย (Stripe Back) มักหมายถึงชันโรง "ชันโรงหางลาย" (Tetragonula melanoleuca) ซึ่งเป็นชันโรงขนาดกลางเช่นกัน
ที่มาของชื่อ "หลังลาย": ดูได้จากด้านหลังของส่วนอก จะมีแถบสีน้ำตาลอ่อนสลับกับสีดำ เป็นลายขวางชัดเจน จึงถูกเรียกว่า "หลังลาย"
นิยมเลี้ยงในภาคกลางและภาคใต้ ให้น้ำผึ้งรสชาติดี แต่เลี้ยงค่อนข้างยากกว่าขนเงิน
เกร็ดความรู้เพิ่มเติม:
ชื่อเรียกชันโรงแบบชาวบ้าน นอกจากจะบ่งบอกถึงลักษณะภายนอกแล้ว บางครั้งยังบอกถึง พฤติกรรม แหล่งที่อยู่ หรือแม้กระทั่งรสชาติน้ำผึ้ง เช่น "อุงหวาน" "อุงเปรี้ยว"
การเรียกชื่อแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ทำให้การศึกษาชื่อเรียกแบบชาวบ้าน เป็นเรื่องสนุก และทำให้เราเข้าใจความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นได้มากขึ้น
.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น