จำหน่ายอุปกรณ์เลี้ยงผึ้งทุกชนิด

วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

พันธุ์ชันโรงท้องถิ่นที่น่าสนใจและเลี้ยงได้

 ภาคกลางของไทย มีพันธุ์ชันโรงท้องถิ่นที่น่าสนใจและเลี้ยงได้หลายชนิดเลยครับ แต่ละชนิดจะมีลักษณะเฉพาะตัวและให้ผลผลิตแตกต่างกันไป ลองดูตัวอย่างพันธุ์ยอดนิยมที่นิยมเลี้ยงในภาคกลางนะครับ

พันธุ์ชันโรงยอดนิยมในภาคกลาง:
  • ชันโรงตัวเล็ก (Trigona spp.)
  • ลักษณะ: ขนาดเล็กที่สุดในบรรดาชันโรง ลำตัวสีดำ ทำรังในโพรงไม้เล็กๆ
  • ข้อดี: เลี้ยงง่าย ขยายพันธุ์ได้เร็ว
  • ข้อจำกัด: ให้ผลผลิตน้ำผึ้งน้อย
ชันโรงหางแดง (Tetragonula laeviceps)
  • ลักษณะ: ตัวใหญ่กว่าชันโรงตัวเล็กเล็กน้อย ท้องปล้องท้ายๆมีสีออกแดง ทำรังในโพรงไม้
  • ข้อดี: ให้ผลผลิตน้ำผึ้งปานกลาง
  • ข้อจำกัด: อ่อนแอต่อศัตรูธรรมชาติ เช่น มด
ชันโรงปากแหว่ง (Tetragonula collina)
  • ลักษณะ: ขนาดลำตัวปานกลาง ปากมีลักษณะแหว่ง ทำรังในโพรงไม้
  • ข้อดี: ให้ผลผลิตน้ำผึ้งค่อนข้างมาก
  • ข้อจำกัด: อาจดุบ้างเล็กน้อยเมื่อถูกรบกวน
ชันโรงใต้ดิน (Lepidotrigona terminata)
  • ลักษณะ: ตัวเล็กสีดำ ทำรังใต้ดิน
  • ข้อดี: เลี้ยงง่าย ทนทาน
  • ข้อจำกัด: ให้ผลผลิตน้ำผึ้งน้อย มักเลี้ยงเพื่ออนุรักษ์มากกว่า


ก่อนตัดสินใจเลือกพันธุ์ ควรพิจารณา:
ความสะดวกในการดูแล: บางชนิดเลี้ยงง่าย บางชนิดอาจต้องการการดูแลเป็นพิเศษ
ปริมาณผลผลิตที่ต้องการ: หากต้องการผลผลิตน้ำผึ้งมาก ควรเลือกพันธุ์ที่ให้น้ำผึ้งมาก
ความเหมาะสมกับพื้นที่: บางชนิดอาจเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

ขอแนะนำเพิ่มเติม:

  • ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลี้ยงชันโรงให้ดีก่อนตัดสินใจเลี้ยง
  • เลือกซื้อชันโรงจากฟาร์มที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้พันธุ์ดี แข็งแรง
  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หรือ เกษตรกรผู้เลี้ยงชันโรง เพื่อขอคำแนะนำ
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกพันธุ์ชันโรงที่เหมาะสม
.
.
นอกจากชื่อทางการแล้ว ชาวบ้านก็มีชื่อเรียกชันโรงพันธุ์ต่างๆ ที่เป็นเอกลักษณ์และเรียกกันติดปากมาดูกันว่ามีชื่ออะไรบ้าง

ชื่อเรียกชันโรงแบบชาวบ้านในภาคกลาง:

  • ชันโรงตัวเล็ก: ผึ้งจิ๋ว, แมลงอุง, ขี้ตั๋ว, อีโลม
  • ชันโรงหางแดง: อุงหางแดง, แดงลำ, เลาหางแดง
  • ชันโรงปากแหว่ง: อุงปากแหว่ง, อุงหางแหลม, อุงเมือง
  • ชันโรงใต้ดิน: อุงดิน, อุงใต้ดิน
หมายเหตุ:

ชื่อเรียกอาจแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น

ชันโรงบางชนิดอาจมีชื่อเรียกซ้ำกันได้
นอกจากชื่อที่กล่าวมาแล้ว ชาวบ้านยังอาจตั้งชื่อชันโรงตามลักษณะของรัง เช่น
อุงรังใหญ่: หมายถึง ชันโรงที่ทำรังขนาดใหญ่ เช่น ชันโรงหางลาย
อุงรังไม้ไผ่: หมายถึง ชันโรงที่ชอบทำรังในต้นไผ่
ข้อดีของการเรียนรู้ชื่อเรียกแบบชาวบ้าน:
ช่วยให้เข้าใจวัฒนธรรมท้องถิ่น และการแบ่งแยกชนิดของชันโรงแบบง่ายๆ
สะดวกในการสื่อสารกับชาวบ้าน เวลาพูดคุยเรื่องชันโรง
 
.
.
ชื่อ ขนเงิน หลังลาย นี่แห่งชัดเจนเลยว่าเป็นภาษาชาวบ้านที่เรียกขานชันโรง บ่งบอกถึงความช่างสังเกตของคนสมัยก่อนที่ตั้งชื่อตามลักษณะของชันโรงได้อย่างตรงเป๊ะ!
มาดูกันว่า "ขนเงิน" กับ "หลังลาย" นี่คือชันโรงชนิดไหน

ขนเงิน (Silver Back) คือชื่อเรียกของชันโรง "ชันโรงหางขาว" (Tetragonula sapiens) ซึ่งเป็นชันโรงขนาดกลาง

ที่มาของชื่อ "ขนเงิน": สังเกตได้จากบริเวณด้านหลังของส่วนท้องปล้องที่ 2 จะมีขนละเอียดสีขาวเงิน มองดูคล้ายเคลือบด้วยผงเงิน จึงเป็นที่มาของชื่อ "ขนเงิน" นั่นเอง
ชันโรงขนเงินเป็นที่นิยมเลี้ยงในภาคกลาง เนื่องจาก ให้ผลผลิตน้ำผึ้งปานกลาง รสชาติดี และเลี้ยงง่าย
.

หลังลาย (Stripe Back) มักหมายถึงชันโรง "ชันโรงหางลาย" (Tetragonula melanoleuca) ซึ่งเป็นชันโรงขนาดกลางเช่นกัน

ที่มาของชื่อ "หลังลาย": ดูได้จากด้านหลังของส่วนอก จะมีแถบสีน้ำตาลอ่อนสลับกับสีดำ เป็นลายขวางชัดเจน จึงถูกเรียกว่า "หลังลาย"
นิยมเลี้ยงในภาคกลางและภาคใต้ ให้น้ำผึ้งรสชาติดี แต่เลี้ยงค่อนข้างยากกว่าขนเงิน
เกร็ดความรู้เพิ่มเติม:
ชื่อเรียกชันโรงแบบชาวบ้าน นอกจากจะบ่งบอกถึงลักษณะภายนอกแล้ว บางครั้งยังบอกถึง พฤติกรรม แหล่งที่อยู่ หรือแม้กระทั่งรสชาติน้ำผึ้ง เช่น "อุงหวาน" "อุงเปรี้ยว"
การเรียกชื่อแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ทำให้การศึกษาชื่อเรียกแบบชาวบ้าน เป็นเรื่องสนุก และทำให้เราเข้าใจความหลากหลายทางชีวภาพ รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่นได้มากขึ้น






.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น