คู่มือการเลี้ยงชันโรงสำหรับมือใหม่
กล่องเลี้ยง: มีหลายแบบ เช่น กล่องไม้ กล่องโฟม ควรเลือกขนาดที่เหมาะสมกับชนิดและปริมาณของชันโรง ข้อดีกล่องไม้: อายุการใช้งานนานกว่า ควบคุมอุณหภูมิได้ดีกว่า ข้อดีกล่องโฟม: ราคาถูกกว่า น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย
ชุดป้องกัน: หมวกตาข่าย เสื้อแขนยาว ถุงมือ เพื่อป้องกันการถูกชันโรงต่อย (ถึงแม้จะไม่มีเหล็กใน แต่บางชนิดกัดได้) ขวดน้ำ/ภาชนะใส่น้ำ: สำหรับให้น้ำชันโรง อาหารเสริม: น้ำหวาน เกสร ควรให้ในช่วงที่อาหารตามธรรมชาติขาดแคลน เครื่องพ่นควัน: ใช้ควันเพื่อไล่ชันโรงในกรณีจำเป็น เช่น ตอนตรวจสอบรัง หรือเก็บเกี่ยวผลผลิต (ควันจากกาบมะพร้าวแห้ง หรือขี้เลื่อย) อุปกรณ์อื่นๆ: มีด หรือ สปาตูล่า สำหรับแซะรวงรัง, เทปกาว, ยางรัด, เชือก
เลือกสถานที่เหมาะสม: ร่มรื่น ใกล้แหล่งอาหาร (ดอกไม้ พืช) มีแหล่งน้ำสะอาด เตรียมกล่องล่อ: กล่องไม้หรือกล่องโฟม เจาะรูขนาดเล็กให้ชันโรงเข้าออกได้ ใช้วัสดุล่อ: มีหลายวิธี เช่น ขี้ผึ้ง: นำขี้ผึ้งชันโรงมาทาภายในกล่อง พรอพอลิส: นำพรอพอลิสมาทาบริเวณทางเข้าของกล่อง สารล่อชันโรงสำเร็จรูป: หาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์เลี้ยงชันโรง รังเก่า: นำส่วนหนึ่งของรังเก่ามาวางในกล่องล่อ
วางกล่องล่อ: วางในตำแหน่งที่เหมาะสม เช่น ใต้ต้นไม้ ตามซอกหิน บริเวณที่เคยพบเห็นชันโรงบินผ่าน รอคอย: อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ชนิดของชันโรง สภาพแวดล้อม ฯลฯ ตรวจสอบ: ตรวจสอบกล่องล่อเป็นประจำ เมื่อชันโรงเข้ามาอาศัยแล้ว ให้ย้ายกล่องไปยังตำแหน่งที่ต้องการเลี้ยง
ให้น้ำ: จัดเตรียมน้ำสะอาดไว้ให้ชันโรงตลอดเวลา ให้อาหารเสริม: ในช่วงที่อาหารตามธรรมชาติขาดแคลน ป้องกันศัตรู: มด แมลงสาบ กิ้งก่า นก ฯลฯ ทำความสะอาด: ทำความสะอาดบริเวณรอบๆ กล่องเลี้ยง เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรค ตรวจสอบรัง: ตรวจสอบรังเป็นประจำ เพื่อดูแลสุขภาพของชันโรง และป้องกันการเกิดโรค
น้ำผึ้ง: เก็บเกี่ยวได้เมื่อรังมีน้ำผึ้งเต็ม โดยใช้หลอดดูดหรืออุปกรณ์อื่นๆ ชันผึ้ง: เก็บเกี่ยวได้เมื่อชันผึ้งมีปริมาณมาก โดยใช้มีดหรือสปาตูล่าแซะออก
ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับชนิดของชันโรงที่ต้องการเลี้ยงให้ละเอียด ก่อนเริ่มเลี้ยง ควรเริ่มเลี้ยงจากจำนวนน้อยๆ ก่อน เพื่อเรียนรู้และฝึกฝนประสบการณ์ ควรปรึกษาผู้มีประสบการณ์ในการเลี้ยงชันโรง เพื่อขอคำแนะนำ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น